การที่ผู้คนในเผ่านี้แหกกฎฟิสิกส์ทั้งหมดเป็นสิ่งที่น่าทึ่งและน่าสนใจอย่างยิ่ง เนื่องจากกฎฟิสิกส์เป็นกรอบที่ใช้ในการอธิบายและคำนวณพฤติกรรมของสิ่งของที่เป็นปกติในโลกเรา แต่การที่มีเผ่าพันธุ์ใดเผ่าหนึ่งที่สามารถแหกกฎเหล่านี้ได้นั้นจะเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่งในด้านวิทยาศาสตร์และศาสนา
การที่มีเผ่าพันธุ์ใดเผ่าหนึ่งที่ถูกบอกว่าแหกกฎฟิสิกส์ทั้งหมดนั้น เป็นเรื่องที่ทึ่งและน่าสนใจอย่างยิ่งในวิทยาศาสตร์และศาสนา เพราะฟิสิกส์เป็นวิทยาศาสตร์ที่ใช้กฎหมายธรรมชาติในการอธิบายและทำนายพฤติกรรมของสิ่งของที่มีอยู่ในโลกเรา การที่มีเผ่าพันธุ์ใดเผ่าหนึ่งที่ทำสิ่งที่ดูเป็นเค้าโครงหรือไม่เหมือนกับที่กฎฟิสิกส์กำหนดไว้นั้น อาจทำให้เราต้องสงสัยหรือพิจารณาถึงศาสนาและวัฒนธรรมของพวกเขาด้วย
ตัวอย่างเช่น ในศาสนาหรือวัฒนธรรมบางกลุ่มอาจมีนักบวชหรือผู้ศรัทธาที่แสดงพฤติกรรมที่ไม่สอดคล้องกับกฎฟิสิกส์ที่สากลยอมรับ เช่น การที่ผู้ศรัทธาสามารถทำอาละวาดหรือสำรวจความเร็วที่ไม่เป็นไปตามกฎฟิสิกส์ในสถานที่เชิงลึก ซึ่งถือเป็นประการแสดงเชิงศาสนาที่เชื่อได้ว่าเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์
คำถามเกี่ยวกับเผ่าพันธุ์ที่มีพฤติกรรมที่ไม่สอดคล้องกับกฎฟิสิกส์ที่ทั่วไปยอมรับเป็นเรื่องที่น่าสนใจจริงๆ โดยเฉพาะในแง่ของวิทยาศาสตร์และศาสนา ตัวอย่างที่น่าสนใจคือนักบวชหรือผู้ศรัทธาที่สามารถทำสิ่งที่กล่าวถึงที่ดูเป็นเค้าโครงหรือไม่เหมือนกับกฎฟิสิกส์ที่เราทราบไว้ในปัจจุบัน.
ในศาสนาคริสต์, มีการระบุเหตุการณ์ที่ถือเป็นประการแสดงเชิงศาสนาที่ต่างจากกฎฟิสิกส์ เช่น ในบางครั้งมีรายงานว่ามีผู้ที่ได้รับพระอาจารย์สมาคมแห่งพระเจ้าที่ทำการหยิบยื่นได้ในตอนที่ไม่มีกฎหมายที่ชัดเจนในทางฟิสิกส์ ซึ่งทำให้เกิดความสงสัยและข้อโต้แย้งในแง่ศาสนาและวิทยาศาสตร์เช่นกัน.
ในวัฒนธรรมและศาสนาบางกลุ่ม, การเชื่อว่าบางครั้งมีความสัมพันธ์กับพลังวิญญาณหรือสวรรค์ที่สามารถส่งผลกระทบต่อกฎฟิสิกส์ในทางที่ยากจะอธิบายได้ด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ อาจทำให้เกิดการพิจารณาถึงศาสนาและความเชื่ออันลึกลับอีกครั้ง.
ดังนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างศาสนาและกฎฟิสิกส์ยังคงเป็นหัวข้อที่น่าสนใจในทางวิทยาศาสตร์และศาสนา เนื่องจากมันเป็นการต่อสู้ของความคิดเชิงวิทยาศาสตร์และความเชื่อที่มีอำนาจในสังคมและวัฒนธรรมของเราทั้งหมด