ยืนยันเสียชีวิตอีก 1 ราย เหยื่อ 10 ล้อคลั่งชนตำรวจ เจ้าหน้าที่เผยผลตรวจปัสสาวะ – คำสารภาพจากผู้ก่อเหตุยิ่งตกใจ
“10ล้อคลั่ง” จากกรณีที่เกิดเหตุ โชเฟอร์คลั่งขับรถบรรทุก 10 ล้อ ไล่ชน ตำรวจ สน.ท่าเรือ ถึงขนาดว่าได้ทำการยิงยางสกัดก็ยังเอาไม่หยุด ก่อนที่คนขับรถ 10 จะขับหนีทิ้งรถไว้ในพื้นที่ บางพลี ก่อนกระโดดลงน้ำหลบหนี ซึ่งในวันเกิดเหตุมีรายงานผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 ราย และมีผู้ที่ถูกชนขณะข้ามถนน อีก 1 ราย
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ผู้เสียชีวิตคือ นายประวิทย์ มากพิชัย อายุ 39 ปี วินรถจักรยานยนต์ สภาพขาหักผิดรูปและดวงตาเขียวช้ำทั้งสองดวง ซึ่ง นายประวิทย์ มากับ ผู้โดยสารคือ น.ส.พรพรรณ แจ่มศรี บาดเจ็บบริเวณ แขนขวาหัก นิ้วมือซ้ายหัก ปอดฉีก หัวกระแทรกพื้นยังไม่พ้นขีดอันตรายอาการโคม่า รักษาตัวที่ โรงพยาบาลรวมใจ รักษ์
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมงานของคนขับรถบรรทุกทราบว่า ตัวผู้ก่อเหตุพึ่งมาเริ่มงานได้ไม่นาน ยังไม่มีความสนิทสนมเท่าที่ควร ในส่วนของพฤติการณ์เรื่องยาเสพติดดื่มสุราไม่มี ตรวจค้นรถไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยถูกจับกุมเมื่อ พ.ย.60 ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตข้อหาครอบครองยาเสพติด
พร้อมกันนี้ยังมีรายงานอีกว่า ผู้บาดเจ็บอีกหนึ่งรายคือ “ลุงแอ๊ด” ชายวัย 68 ปี ที่กำลังข้ามถนนตรงทางม้าลายหน้าแฟลตการท่าเรือ แยกกรมศุลกากร ทำให้ร่างกระเด็นไปไกลกว่า 4 เมตร จนอาการบาดเจ็บสาหัส ซึ่งล่าสุด ผึ้ง หลานลุงแอ๊ด ยืนยันว่า เมื่อเวลา 07:20 น. ที่ผ่านมา “ลุงแอ๊ด” เสียชีวิตแล้ว ญาติอยู่ระหว่างติดต่อขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนา
ด้าน พ.ต.อ.ปณิธิ ผู้กำดับสถานตำรวจนครบาลท่าเรือ เปิดเผยว่า ได้นำตัว นายวัลลภ อายุ 43 ปี ผู้ก่อเหตุขับรถบรรทุกไล่ชนดะหลายพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต ออกจากโรงพยาบาล กลับมายังสถานีตำรวจนครบาลท่าเรือแล้ว
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นคนก่อเหตุจริง ซึ่งช่วงเช้าวันเกิดเหตุ ได้เสพสารเสพติด และกังวลว่า จะมีคนมาทำร้าย จึงได้ก่อเหตุขึ้น สอดคล้องกับการที่ตำรวจส่งตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะเพิ่มเติม และพบมีสีม่วง
จึงแจ้งข้อหา เสพสารเสพติด เพิ่มเติมจากที่ได้แจ้งข้อหาไปแล้ว รวม 5 ข้อกล่าวหา ประกอบด้วย ข้อหา ประมาทขับรถเฉี่ยวชนเป็นเหตุให้ผู้อื่นบาดเจ็บและเสียชีวิต ประมาทขับรถเฉี่ยวชนเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย หลบหนีการจับกุม และ ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน