รวบแก๊งกู้ภัย ตระเวนลักสายเคเบิล ขณะใช้รถติดไซเรนลากสายขึ้นจากบ่อพักใต้ดิน

ส่วนรถกระบะ โตโยต้า รีโว่ สมาร์ทแค็ป สีขาว ติดสติกเกอร์มูลนิธิฯเช่นเดียวกัน ด้านข้างรถทั้ง 2 ด้าน หมายเลขทะเบียน บต 9912 นครนายก ผู้ขับขี่ คือนายณัฐวุฒิ หรือปาล์ม อายุ 22 ปี พร้อมเยาวชนอายุ 17 ปี และ อายุ 14 ปี นั่งมาด้วย โดยรถยนต์กระบะทั้ง 2 คัน ขับตามกันมาและจอดบริเวณหน้าร้านสว่าง บะหมี่ปู ถ.สี่พระยา

หลังจากนั้น ทั้ง 5 คน ลงจากรถกระบะ นายบอล นายปาล์ม เยาวชน ได้สวมเสื้อเป็นเสื้อทีมสีเลือดหมู มีแถบสะท้อนแสง ทั้งหมดแบ่งหน้าที่กันทำ โดยนายปาล์ม ทำหน้าที่ดูสายเคเบิล ที่ขอบบ่อพักสาย และโทรแจ้งนายบอล ที่ทำหน้าที่ขับรถลาก เมื่อสายหลุดออกมาแล้ว เยาวชนอายุ 14 ปี มีหน้าที่ระวังรถที่สัญจรบนท้องถนน ไม่ให้เหยียบสายเคเบิล เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้

ส่วนนายบอลมีหน้าที่ขับรถถอยหลัง เพื่อดึงสายเคเบิลออกจากบ่อพัก เยาวชน 17 มีหน้าที่ตัดสายเคเบิลที่ลากออกจากบ่อพักเรียบร้อยแล้ว และ น.ส.ไอลีน นั่งรออยู่ในรถยนต์กระบะที่นายบอลใช้ขับลากสายเคเบิลในระหว่างนั้น ขณะที่ทั้งหมดกำลังลงมือ ทางผู้เสียหายซึ่งได้รับมอบอำนาจจาก บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด(มหาชน) ที่ได้ร่วมปฏิบัติกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน สน.บางรัก ได้ชี้ให้เจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุมทันที

จากการสอบสวน นายบอลรับว่าเป็นหัวหน้าทีม ปกติทำงานอาสาสมัครกู้ภัย และได้ชักชวนทีมงานออกตระเวนลักทรัพย์ ตัดสายเคเบิลโทรศัพท์ ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล โดยเริ่มทำตั้งแต่เดือน พ.ค.67 ทำมาแล้วจำนวนหลายครั้ง หลังจากที่ได้สายเคเบิลมาแล้ว จะช่วยกันลอกเอาเปลือกหุ้มออก แล้วเอาไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่า ในพื้นที่ร่มเกล้า ในราคากิโลกรัมละ 170–180 บาท แต่ถ้านำไปเผาให้เหลือแต่ทองแดง จะขายได้กิโลกรัมละ 280–300 บาท หลังจากขายได้เงินแล้วก็จะนำเงินมาแบ่งให้ทีมงานคนละ 500 บาท สำหรับร้านค้าที่มีพฤติกรรมในการรับซื้อของโจร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับทราบข้อมูลแล้ว และจะได้ดำเนินการตามกฎหมายกับกลุ่มร้านค้าดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาทั้ง 5 คน ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด และได้แจ้งข้อหากับนายบอล เพิ่มเติมในข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนคุมตัวพร้อมของกลาง นำส่งร้อยเวรสอบสวน สน.บางรัก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.ธรรมศักดิ์ กล่าวว่า ฝากประชาสัมพันธ์ข้อมูลถึงพี่น้องประชาชน ว่ากลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวจะทำทีแต่งกายเป็นทีมคล้ายผู้รับเหมาเดินสายสัญญาณ แต่การรื้อถอนสายใต้ดินในช่วงเวลากลางคืน จะต้องมีหนังสือขออนุญาตไปทางสถานีตำรวจ ที่รับผิดชอบในพื้นที่นั้นๆ และจะต้องมีหนังสืออนุญาตให้รื้อถอนสายสื่อสาร ระบุขนาด ระยะทาง และสถานที่ ตามที่บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) กำหนดให้รื้อถอน

หากพี่น้องประชาชนพบเห็น กลุ่มที่มีพฤติกรรมดังกล่าว หรือสงสัยว่าอาจเป็นมิจฉาชีพ โปรดแจ้งมายังสายด่วน 191 เพื่อทางเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบ หากพบการกระทำผิดจะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป