วิกฤตเศรษฐกิจในประเทศลาวมีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจอย่างชัดเจน ดังนี้:
1. **เงินเฟ้อ:** การเงินเฟ้อหมายถึงการเพิ่มขึ้นของระดับราคาของสินค้าและบริการในตลาดทั่วไป ซึ่งทำให้รายจ่ายในการดำเนินชีวิตประจำวันของประชากรเพิ่มขึ้น ทำให้คุณภาพชีวิตลดลงและภาวะความยากจนมีมากขึ้น
2. **เงินกีบอ่อนค่า:** การเงินกีบอ่อนค่าหมายถึงการเสื่อมค่าของเงินบาท ซึ่งทำให้รายได้ที่ได้รับมีความคุ้มค่าน้อยลง และการซื้อสินค้าและบริการที่สูงขึ้น ทำให้เพิ่มความยากลำบากในการจัดการเงินทุนของครัวเรือน
3. **หนี้สูง:** ปัญหาหนี้สินที่สูงมากอาจเกิดจากการยืมเงินที่ไม่มีความรับผิดชอบหรือการผิดใช้จ่ายทางการเงินของรัฐหรือภาคเอกชน การชำระหนี้ที่มีระยะเวลาและอัตราดอกเบี้ยสูงอาจทำให้ภาระความตึงเครียดทางการเงินของประชากรเพิ่มขึ้น
4. **ขาดความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ:** ความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจอาจเกิดจากการเชื่อมั่นที่ต่ำในการลงทุนของภาคเอกชนหรือต่างประเทศที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเพิ่มรายได้และการพัฒนาของประเทศ
การวิกฤตเศรษฐกิจในลาวเป็นปัญหาที่ซับซ้อนและส่งผลกระทบต่อชีวิตของประชากรทั่วไปอย่างมาก การแก้ไขปัญหาดังกล่าวต้องการมีการดำเนินการที่มีมาตรการระดับทั้งรัฐบาลและภาคเอกชนเพื่อเพิ่มความเสถียรในเศรษฐกิจและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชากรที่อยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก