ชาวต่างชาติที่ชื่อว่าราเชลได้ทำคลิปวิดีโอเพื่อเตือนให้ระวังเมื่อไปเที่ยวเวียดนาม โดยเฉพาะในเรื่องของการโดนหลอกลวง เธอเล่าถึงประสบการณ์ของตัวเองและเตือนให้ระวัง โดยเธอกล่าวว่าถ้าใครไปเที่ยวเวียดนามต้องระวังการโดนหลอกแบบนี้ แม้ว่าเธอจะชื่นชอบเวียดนามมากๆ แต่เธอก็เตือนให้ระวัง โดยเธอกล่าวว่าเธอได้ทำวีซ่ามาเพื่อเที่ยวเวียดนามเป็นเวลา 1 เดือน และได้ท่องเที่ยวระหว่างกรุงฮานอยไปถึงโฮจิมินห์โดยใช้การขี่มอเตอร์ไซค์ ซึ่งเธอคิดว่าเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดมากที่สุดที่เคยทำค่ะ
ระวังด้วยนะ อย่าให้ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงเช่นนี้ เพราะเธอบอกว่าจริงๆแล้วเธอชอบเวียดนามมากๆ เราได้ทำวีซ่าเพื่อเดินทางมาเที่ยวเวียดนามเป็นเวลา 1 เดือน และได้ท่องเที่ยวทั่วกรุงฮานอยไปถึงโฮจิมินโดยใช้รถมอเตอร์ไซค์ แบบนี้คือสิ่งที่แปลกประหลาดที่สุดที่เราเคยทำค่ะ อย่างไรก็ตาม เมื่อได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและผ่อนคลายในเวียดนาม จะต้องระวังการตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงเสมอนะคะ การแบ่งปันประสบการณ์และคำเตือนเช่นนี้เป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์อย่างมากค่ะ
การขี่มอเตอร์ไซค์ในเวียดนามเป็นสิ่งที่คนหลายคนทราบอยู่แล้ว เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ชีวิตที่มีความท้าทายและสนุกสุดขีด อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาที่เราทำแบบนั้น มันอาจจะมีเหตุการณ์ที่เรียกได้ว่าเป็นการหลอกลวงเกิดขึ้นบ้าง เช่นเดียวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันด้วย มีความเป็นไปได้ที่จะเจอกับเหตุการณ์แบบนั้นในอดีตเช่นกัน แต่นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้และการเจรจาต่อเส้นทางของชีวิตค่ะ
การนั่งรถแท็กซี่อาจมีความไม่สะดวกในเรื่องของการทราบราคาที่ต้องจ่ายล่วงหน้า เนื่องจากคนขับรถแท็กซี่มักจะไม่แจ้งให้ลูกค้าทราบเกี่ยวกับราคาจริงๆ ที่ต้องจ่ายไป แต่ในความเป็นจริง เราสามารถทราบราคาในการเดินทางได้โดยการใช้บริการ Uber หรือ Grab ตรงที่เราจะไป ดังนั้นเราสามารถทราบราคาของการเดินทางแต่ละครั้งล่วงหน้าได้โดยง่าย อย่างไรก็ตาม บางครั้งอาจไม่สะดวกที่เราจะต้องรอรถแท็กซี่มาถึง และในบางกรณีเราอาจต้องการทราบราคาของการเดินทางทันที ดังนั้นการเลือกใช้บริการ Uber หรือ Grab อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับบางคนค่ะ
การเรียกใช้บริการ Grab หรือ Uber เมื่อมีรถแท็กซี่อยู่ตรงนั้นอยู่แล้ว เป็นวิธีที่สะดวกและง่ายมากๆ โดยเฉพาะเมื่อเราต้องการเดินทางในระยะทางที่ไม่ไกลมาก ยกตัวอย่างเช่นถ้าเราต้องการเดินทางแค่ประมาณ 4 นาทีเท่านั้น เรียกแท็กซี่ก็จะเป็นเลือกที่มีความสะดวกมากๆ โดยราคาที่จะต้องจ่ายก็จะไม่มีปัญหามากนัก เพราะระยะทางนั้นไม่ไกลเกินไปค่ะ ดังนั้น เราสามารถเลือกทางเลือกให้เหมาะสมกับความสะดวกและความต้องการของเราได้ตามความเหมาะสมค่ะ
โอเคค่ะ ค่าใช้จ่ายที่ระยะทางนั่งมาเป็น 4 นาทีคิดเป็น 15 เหรียญ ซึ่งนักท่องเที่ยวคนนี้ก็แจ้งว่าการนั่งรถในเวียดนามเสียเงิน 15 เหรียญ ฉันคิดว่าเป็นจำนวนเงินที่ผิดปกตินะค่ะ แม้ว่าสิ่งนี้เป็นวิธีหนึ่งในการหลอกลวงนักท่องเที่ยวที่พบเห็นบ่อยที่สุด ดังนั้น เมื่อไปไหนก็ต้องเรียนรู้ที่จะถามราคาและตกลงราคากับคนขับแท็กซี่ให้เรียบร้อย ต่อไปนี้ ประเด็นถัดไปที่นักท่องเที่ยวคนนี้จะแชร์คือการไปรับประทานอาหารที่ร้านใหญ่ๆ บางครั้ง เมื่อไปที่ร้านแบรนด์ใหญ่ เราอาจพบว่าราคาเสนอของเรามักจะสูงกว่าราคาที่นักท่องเที่ยวท้องถิ่นได้ค่ะ ดังนั้น การเรียนรู้และการทำความเข้าใจในการซื้อของและการต่อรองราคาเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งค่ะ
รูปภาพของอาหารที่สวยงามและมีการตกแต่งอย่างสวยงามนั้นเป็นเหมือนการเสนอแสดงสำหรับเมนูที่เราจะสั่งซื้อ เธอบอกว่ามีอาหารหลายๆ อย่างในเมนูที่เธอสั่ง แต่คุณไม่ได้เห็นราคาที่แนบมาด้วย สิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกเต็มไปด้วยความสนใจในคืนแรกที่มาถึงกรุงฮานอย จากรูปภาพที่เห็น เธอรู้สึกตื่นเต้นมากเพราะดูเหมือนว่ามีอาหารหลายชนิดมากมายในเมนู ทำให้เธอรู้สึกเป็นเหตุการณ์ที่น่าสนใจอย่างยิ่งค่ะ
เมนูที่เสนอให้เลือกอาจไม่จำเป็นต้องอ่านเสมอไปเนื่องจากอาจมีความเข้าใจผิดพลาดได้ แม้ว่าคุณจะเป็นคนท้องถิ่นในเวียดนาม แต่แต่ละคนก็อาจขายราคาสินค้าหรือบริการในระดับราคาที่แตกต่างกันไป เช่นเดียวกับว่าแต่ละคนอาจขายราคาต่างกัน คนหนึ่งอาจขายในราคาหนึ่งและคนอีกคนอาจขายในราคาอื่น ๆ เธอกล่าวว่ากลุ่มของเธอที่ไปรับประทานอาหารในวันนั้นมี 3 คน โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดในมื้อนั้นมีราคาอยู่ที่ 40 ดอลลาร์เท่านั้น ซึ่งมูลค่านี้มีความแตกต่างจากที่คนละประมาณ 5 เหรียญต่อมื้ออาหารที่เป็นปกติในเวียดนาม แต่ในวันนั้นคุณพบว่า
ไป 40 เหรียญเธอบอกว่ามื้อนั้นรู้สึกว่า แบบโดนค่าอาหารไปอ่วมมากๆราคาไม่น่าจะสูงขนาดนั้นฉันคงจะพลาดไปเองแหละเพราะฉะนั้น เวลาจะซื้ออะไรล่ะก็ในเวียดนามจะต้องดูราคาที่เขาติดเอาไว้ไก่อนว่ามีระบุราคา เอาไว้มยหรือว่าถ้าเกิดไม่มีระบุราคาเขียนเอาไว้ก็จะต้องสอบถามให้แน่ใจซะก่อน และอีกอันนึงที่อยากจะเตือนค่ะเหตุการณ์แบบนี้นั้นเกิดขึ้นบ่อยมากๆถึงแม้จะจับ ได้ทุกครั้งนะว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นเกี่ยวกับเหตุการณ์แบบนี้แต่ว่าบางครั้ง เราก็พลาดไปเองจริงๆนั่นก็คือเวลาขี่
มอเตอร์ไซค์ไปเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมัน นั่นแหละสิ่งสำคัญก็คือจะต้องนับเงินทอน โดยส่วนตัวของฉันปกติแล้วฉันไม่เคยดูเงินทอนเลยว่าเขาถอดเงินมาครบหรือเปล่าคือ ปกติฉันจะไม่ได้สังเกตแต่ว่ามีครั้งนึง คือฉันไปเติมน้ำมันพอจ่ายเงินเรียบร้อย เขาก็ไม่เอาเงินทอนมาเลยสักก็บาทเดียว หลังจากนั้นก็เลยรู้สึกว่าเอ๊ะก่อนหน้า นี้เนี่ยเป็นยังไงบ้างสงสัยจะโดนไปแล้ว หลายครั้งแต่ก็อย่างว่าแหละฉันจะต้องขอบคุณพวกเขานะที่ทำให้ฉันรู้ซักทีว่าฉัน จะต้องทำยังไงบ้างแล้วก็จะต้องตรวจสอบอะไรบ้างเวลามาเติมน้ำมันเพราะฉะนั้นนะ จ๊ะขอสรุปให้เลยถ้าใครไปเที่ยวเวียดนาม อย่าลืมนะถ้าจะโดยสารหรือเดินทางท่อง เที่ยวไปที่ไหนถ้าไม่ได้เรียก grb ขึ้น แท็กซี่ธรรมดาล่ะก็อย่าลืมสอบถามราคาค่า โดยสารให้เรียบร้อยก่อนตกลงกับคนขับให้ เคลียร์จะได้ไม่มีปัญหาในภายหลังและ 2 ก็ คือเวลาไปรับประทานอาหารที่ไหนก็แล้วแต่ อย่าลืมดูราคานะจ๊ะว่าเขามีแปะราคาเอาไว้ หรือเปล่าถ้าเกิดไม่ได้แปะราคาลก็ให้สอบถามคนขายให้เรียบร้อยและข้อ 3 เวลาไปเติม น้ำมันนะจ๊ะอย่าลืมนะดูด้วยว่าเงินทอนน่ะครบหรือเปล่าโดยในคลิปนี้นะคะก็มีต่าง ชาติหลายคนเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นค่ะ
แท็กซี่ปกติอีกเลยแล้วก็มีคอมเมนต์จากคุณ บิลลี่เขาบอกว่าฉันอยากจะไปเที่ยว เวียดนามบ้างจังอยากจะขี่มอเตอร์ไซค์ เที่ยวในเวียดนามนี่แหละอยากจะไปเที่ยว รอบๆ กรุงฮานอยฉันมาดูคลิปนี้เพื่อเก็บ ความรู้เอาไว้ก่อนเวลาฉันไปจะได้ท่อง เที่ยวได้อย่างถูกต้องแล้วก็มีความสุข ขอบคุณมากๆเลยนะแล้วก็มีอีกคนนึงชื่อว่า ซาฟี่เธอบอกว่าฉันจะขอวีซ่าได้ยังไง เดี๋ยวเจ้าของคลิปก็มาตอบค่ะบอกว่าฉันขอ วีซ่าออนไลน์ง่ายกว่าแล้วก็สะดวกกว่าด้วย ใช้เวลารอประมาณไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นเอง คุณควรจะขอวีซ่าออนไลน์นะเวลาไปเที่ยวจะ ได้ไม่มีปัญหาแล้วก็มีอีกคนนึงค่ะเป็น ต่างชาติชื่อว่าโกมาคอมเมนต์ถามว่าคุณ เชอบมอเตอร์ไซค์ที่ไหนในฮานอยหรือว่านาย โฮจิมินกันแน่โดยราเชลก็มาตอบว่าฉัน เปลี่ยนมอเตอร์ไซค์ในดานังชื่อว่าเรนอบ
