การตั้งเรทเงินเอง หรือการควบคุมค่าเงินในลักษณะที่ไม่เป็นไปตามกลไกตลาด อาจมีผลกระทบหลายประการต่อเศรษฐกิจและราคาสินค้าในประเทศ นี่คือผลกระทบหลักที่อาจเกิดขึ้น:
1. **ราคาสินค้าพุ่ง**: หากค่าเงินที่ตั้งเองต่ำกว่าค่าที่ตลาดกำหนดจริง สินค้านำเข้าจะมีราคาสูงขึ้น เพราะต้องใช้เงินมากขึ้นในการซื้อสินค้าต่างประเทศ ซึ่งทำให้ราคาสินค้าในประเทศสูงขึ้นตามไปด้วย
2. **เงินเฟ้อ**: ราคาสินค้าที่สูงขึ้นสามารถนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งหมายความว่าค่าของเงินในประเทศลดลง ทำให้ผู้บริโภคต้องจ่ายเงินมากขึ้นสำหรับสินค้าและบริการเดิม
3. **ผลกระทบต่อการนำเข้าและส่งออก**: ค่าเงินที่อ่อนตัวจะทำให้สินค้านำเข้ามีราคาสูงขึ้น และอาจทำให้การส่งออกของประเทศมีความสามารถในการแข่งขันดีขึ้น แต่หากการส่งออกไม่เพียงพอที่จะชดเชยการนำเข้า การขาดดุลการค้าจะเพิ่มขึ้น
4. **ความเชื่อมั่นของนักลงทุน**: การตั้งเรทเงินเองอาจทำให้เกิดความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนระมัดระวังหรือถอนการลงทุนออกจากประเทศ ส่งผลให้เศรษฐกิจมีความผันผวน
5. **ปัญหาหนี้สิน**: สำหรับประเทศที่มีหนี้สินต่างประเทศ การตั้งเรทเงินต่ำอาจทำให้หนี้สินมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นเมื่อต้องชำระเงินคืนด้วยค่าเงินที่อ่อนตัว
6. **การควบคุมตลาดทุน**: หากมีการตั้งเรทเงินเองและมีการควบคุมการเคลื่อนไหวของเงินทุน อาจเกิดการไหลออกของเงินทุนหรือการพยายามหาวิธีเลี่ยงกฎเกณฑ์ที่ตั้งขึ้น
การตั้งเรทเงินเองสามารถทำให้เกิดความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาสินค้าและเสถียรภาพของเศรษฐกิจ การบริหารจัดการค่าเงินและการควบคุมเศรษฐกิจควรทำด้วยความระมัดระวังเพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจโดยรวม