ชาวเขมรได้ทำคลิปวิดีโอเพื่อเปิดเผยเรื่องราวของรูปสลักไดโนเสาร์ที่ตั้งอยู่ที่กำแพงวัด โดยเนื้อหาในคลิปนั้นเปิดเผยว่ารูปสลักนั้นเป็นหลักฐานที่มีความเชื่อมั่นและตรงกับความจริง การเปรียบเทียบรูปสลักกับภาพเหมือนจริงที่นำโทรศัพท์มือถือมาเปรียบเทียบ จะเห็นได้ชัดเจนว่ารูปสลักมีลักษณะที่คล้ายกับปฏิมากรรมของวัดตาพรหมในจังหวัดเสมราช
การเปรียบเทียบส่วนของมือและจมูกของรูปสลักกับส่วนของผนังกำแพงวัดก็เป็นหลักฐานที่ชัดเจนอีกตัวหนึ่ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารูปสลักนั้นมีลักษณะคล้ายกับไดโนเสาร์ ที่ตรงกับภาพในโทรศัพท์มือถือ รูปสลักนี้ถูกตั้งอยู่ที่ทางเข้าจากทิศตะวันตก ประตูที่ 2 ของวัด ทางที่อยู่ทางขวามือ และเป็นจุดที่สร้างความสนใจให้แก่ชาวกัมพูชา
การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับรูปสลักไดโนเสาร์ที่ตั้งอยู่ที่กำแพงวัดได้เรียกความสนใจและแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของบรรพบุรุษของคนเขมร มีหลายคนที่เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าวิธีการตรวจสอบแบบนี้ดูน่าทึ่งและน่าสนใจจริงๆ
รูปถ่ายที่แสดงเสือหรือสิงโตที่ปรากฏในบรรพบุรุษของคนเขมรก็ได้สร้างความสงสัยและความทึ่งใจอย่างมาก เนื่องจากมีลักษณะที่มองเห็นได้ชัดเจนและเป็นไปได้ที่จะเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากที่สุดในการศึกษาเพิ่มเติมในอนาคต
การค้นพบบรรพบุรุษของคนเขมรที่มีลักษณะเป็นสัตว์ร้ายอาจเป็นศึกษาวิจัยที่น่าสนใจและมีความสำคัญอย่างยิ่งใหญ่ และอาจช่วยให้เราเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของคนเขมรได้อีกด้วย
บางคอมเมนต์ได้ชี้ชัดเจนถึงความสำคัญของรูปสลักไดโนเสาร์ที่ตั้งอยู่บนกำแพงวัดเป็นหลักฐานที่มีค่ามาก และเสนอเสนอว่ามีสิ่งมหัศจรรย์ของคนเขมรโบราณที่ซ่อนอยู่ รวมถึงความรวดเร็วของการตอบสนองต่อความสงสัยเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในที่นั้น และความมั่งคั่งทางวัฒนธรรมของประเทศกัมพูชาอีกด้วย
การพบรูปสลักนี้ไม่เพียงแค่เป็นการค้นพบประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นหลักฐานที่ชัดเจนและทรงพลังในการแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงและความหลงใหลของชาวเขมรในอดีต และเป็นการยืนยันว่าประวัติศาสตร์ของพวกเขามีความสำคัญและมีเหตุผลที่จะต้องถูกสืบสวนและศึกษาอย่างละเอียดอีกต่อไป
เขมรได้นำเสนอหลักฐานที่เป็นรูปแกะสลักที่พบบนกำแพงวัดซึ่งมีความเหมาะสมสำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์ระดับโลกอย่าง “จูราสสิค เวิลด์ 4” ซึ่งเป็นการโชว์ออกมาอย่างน่าประทับใจเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการถ่ายทำฉากในภาพยนตร์ที่จะมีสเกลใหญ่มาก
การนำเสนอหลักฐานนี้เป็นการเรียกความสนใจและความสงสัยจากสาธารณชนทั่วไปอย่างมาก เนื่องจากมีความเหมาะสมในการใช้เป็นส่วนหนึ่งของกองถ่ายที่มีกระแสและขนาดใหญ่อย่าง “จูราสสิค เวิลด์ 4” ซึ่งจะเป็นการยืนยันถึงความสำคัญและความน่าสนใจของภาพสลักนี้ในอุตสาหกรรมศิลปะและบันทึกประวัติศาสตร์ของคนเขมร
