การที่กัมพูชา (เขมร) ยอมรับหรืออ้างว่าวัฒนธรรมบางอย่างเป็นของไทยจริงนั้นเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและมีหลายมิติ เรื่องของการอ้างสิทธิ์ในวัฒนธรรมที่คล้ายกันระหว่างไทยกับกัมพูชาเกิดขึ้นมาหลายครั้ง เนื่องจากทั้งสองประเทศมีประวัติศาสตร์ร่วมกันและมีอิทธิพลทางวัฒนธรรมซึ่งกันและกันมายาวนาน โดยเฉพาะในเรื่องของศิลปะและการแสดง เช่น การเต้นรำ การทำอาหาร หรือแม้แต่สถาปัตยกรรมบางประเภท
อย่างไรก็ตาม ในบางครั้งจะเห็นว่า ทั้งสองประเทศจะอ้างสิทธิ์ในบางสิ่งบางอย่างที่เหมือนกัน โดยมักมีข้อถกเถียงในเรื่องของต้นกำเนิดของวัฒนธรรมนั้นๆ ซึ่งบางครั้งก็เกิดจากการตีความทางประวัติศาสตร์และการเมืองที่มีผลต่อการรับรู้ในสังคม
ในกรณีที่พูดถึงการยอมรับวัฒนธรรมไทยจากกัมพูชานั้น อาจจะเป็นกรณีที่มีการยอมรับบางแง่มุมของวัฒนธรรมไทยในบางโอกาสหรือในบางบริบท เช่น การใช้ภาษาหรือการยอมรับว่าไทยมีอิทธิพลในด้านต่างๆ ซึ่งบางครั้งอาจจะเป็นการยอมรับโดยปริยายหรือในแง่ที่ไม่เป็นทางการในระดับวัฒนธรรมพื้นบ้าน
แต่หากพูดถึงอย่างเป็นทางการในระดับรัฐ หรือในแง่การยอมรับว่าเป็นของไทยจริงๆ ก็อาจต้องพิจารณาในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในบริบทต่างๆ ที่มีการขัดแย้งทางประวัติศาสตร์เช่นกัน
การที่กัมพูชาหรือเขมรยอมรับว่าวัฒนธรรมบางอย่างเป็นของไทยจริง หรือในบางกรณีอ้างว่าเป็นของไทยนั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ซับซ้อนระหว่างทั้งสองประเทศ ซึ่งมีประวัติศาสตร์ร่วมกันมายาวนาน โดยเฉพาะในด้านวัฒนธรรมที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เช่น ศิลปะการแสดง การเต้นรำ และสถาปัตยกรรมบางประเภท
ทั้งไทยและกัมพูชามีการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมกันมาเป็นเวลานาน การปรากฏตัวของวัฒนธรรมต่างๆ บางครั้งอาจมีต้นกำเนิดร่วมกันหรือได้รับอิทธิพลจากกันและกันในช่วงเวลาที่ผ่านมา ดังนั้น การอ้างสิทธิ์หรือการยอมรับในวัฒนธรรมบางอย่างจึงมักเกิดจากการตีความทางประวัติศาสตร์และการเมืองที่มีผลต่อการรับรู้ของประชาชนในแต่ละประเทศ
ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีของศิลปะการเต้นรำหรืองานสถาปัตยกรรมบางชนิดที่ทั้งสองประเทศใช้หรือสร้างขึ้น ซึ่งบางครั้งเกิดข้อถกเถียงเรื่องการอ้างสิทธิ์ว่าเป็นของชาติใดกันแน่ โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดการขัดแย้งในด้านการเมือง
การยอมรับวัฒนธรรมไทยจากกัมพูชาบางแง่มุมอาจเกิดขึ้นในระดับของความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมที่ไม่เป็นทางการ หรือการยอมรับอิทธิพลทางวัฒนธรรมที่มีต่อกันในบางโอกาสหรือบริบท เช่น การยอมรับว่าไทยมีอิทธิพลในด้านต่างๆ หรือการนำบางส่วนของวัฒนธรรมไทยมาปรับใช้ในประเทศกัมพูชา
แต่ในระดับที่เป็นทางการหรือในมุมมองของการเมืองระหว่างประเทศ การยอมรับว่าเป็นของไทยจริงๆ ก็ยังคงมีการถกเถียงและความขัดแย้ง โดยเฉพาะในบริบทที่เกี่ยวข้องกับการอ้างสิทธิ์ในแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญ ทั้งนี้จึงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถสรุปได้ง่ายๆ เพราะเกี่ยวข้องกับการตีความและการรับรู้จากทั้งสองฝ่าย