สื่อใหญ่ของกัมพูชาได้มีการเปิดเผยข่าว ระดับนานาชาติที่เป็นเที่ยวบินตรงระหว่าง
เวียงจันทร์แห่งสปปลาวและกรุงพนมเป็น ราชอาณาจักรกัมพูชาได้มาถึงจุดสิ้นสุด
แล้วโดยมีรายงานว่าเป็นการตัดสินใจยุติ เที่ยวบินที่เกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่สาย
การบินกลับมาให้บริการเที่ยวบินตรงอีก ครั้งเมื่อ 3 เดือนก่อนในวันที่ 19
มีนาคมที่ผ่านมาโดยผู้เชี่ยวชาญทางด้าน การท่องเที่ยวได้ระบุว่าการยกเลิกเที่ยว
บินตรงอาจจะมีสาเหตุมาจากความต้องการเดิน ทางระหว่างประเทศกัมพูชาและสปปลาวนั้นมี
น้อยมากๆโดยก่อนหน้านี้เที่ยวบินตรงใน เส้นทางเวียงจันทร์พนมเปนได้เปิดให้
บริการมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1980 จนถึง กลางทศวรรษที่ 2000 ซึ่งอย่างไรก็ตามจาก
สภาวะตลาดที่เงียบเง้าทำให้เที่ยวบินทั้ง หมดต้องถูกระงับซึ่งเมื่อช่วงกลางเดือน
มิถุนายนที่ผ่านมาก็ได้มีการเปิดเผยจาก สื่อดังของกัมพูชาว่านี่คือวันสุดท้าย
สำหรับเที่ยวบินตรงระหว่างเวียงจันทร์สปป ลาวและกรุงพนมเปนประเทศกัมพูชาซึ่งดำเนิน
การโดยสายการบินลาวซึ่งก่อนหน้านี้ทาง ด้านสายการบินลาวแอร์ไลน์ซึ่งเป็นสายการ
บินแห่งชาติของสปปลาวได้กลับมาให้บริการ เที่ยวบินตรงระหว่างเวียงจันทร์และกรุง
พนมเปนซึ่งเปิดให้บริการปกติสัปดาห์ละ 3 ครั้งคือทุกวันอังคารวันพฤหัสสบดีและวัน
เสาร์โดยเที่ยวบินของสายการบินลาว แอร์ไลน์มีผู้โดยสารประมาณ 100 คนที่ได้
เดินทางไปถึงสนามบินนานาชาติพนมเปนเมื่อ วันที่ 19 มีนาคมโดยมีพิธีต้อนรับอย่าง
สวยงามโดยพิธีดังกล่าวหุ่นไซลาปลัด กระทรวงการท่องเที่ยวผู้โดยสารบนเครื่อง
บินได้รับการต้อนรับและผ้าพันธุคอเขมรโดย เป็นการบริการโดยเครื่องบิน Airbus 320
โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการบิน พลเรือนหรือ ssca ได้เปิดเผยว่าที่ผ่านมา
เที่ยวบินตรงระหว่างเวียงจันทร์และพนมเปน โดยสายการบินลาวคาดว่าจะช่วยกระตุ้นการ
ท่องเที่ยวทั้ง 2 จุดหมายปลายทางได้เป็น อย่างดีซึ่งได้กล่าวว่าการกลับมาให้
บริการเที่ยวบินอีกครั้งในช่วงกลางเดือน มีนาคมที่ผ่านมาถือเป็นสัญญาณเชิงบวก
สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมถึงนัก ธุรกิจและนักลงทุนนอกจากนี้ยังเป็นการ
กระชับความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของ ประเทศลาวและประเทศกัมพูชาอีกด้วยโดยการ
เชื่อมต่อที่น่าตื่นเต้นนี้ทำให้มีเที่ยว บินตรงที่สะดวกสบายเป็นจำนวนถึง 3 เที่ยว
ต่อสัปดาห์ระหว่างกรุงพนมเปนและนครหลวง เวียงจันทร์ทำให้การเดินทางระหว่างเมือง
ล้วงที่สวยงามของทั้ง 2 ประเทศง่ายดายมาก กว่าที่ผ่านมาโดยสนามบบกัมพูชาดูแลสนาม
บินนานาชาติพนมเปนและสนามบินนานาชาติ สีหนุวิลนอกจากนี้ทางด้านท่าอากาศยาน
กัมพูชาได้ระบุว่ารู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก ที่ได้เห็นสายการบินลาวเดินทางกลับกรุง
พนมเปนพร้อมกับผู้โดยสารจำนวนกว่า 150 คน ในช่วงที่มีการเปิดสายการบินอีกครั้งใน
ช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมาโดยอย่างไร ก็ตามสายการบินลาวได้ให้บริการเที่ยวบิน
ตรงในเส้นทางเวียงจันทร์และกรุงพนมเปนมา ตั้งแต่ปี 1980 แต่อย่างไรก็ตามมีหลาย
ปัจจัยทางด้านการตลาดทำให้เที่ยวบินใน เส้นทางถูกระงับชั่วคราวแต่ถึงกระนั้นการ
ให้บริการทางอากาศระหว่างทั้ง 2 ประเทศก็ ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องโดยสายการ
บินเวียดนามภายใต้ข้อตกลงเที่ยวบินร่วม ซึ่งที่ผ่านมานั้นมีการให้บริการเที่ยว
บินตรงระหว่างหลวงพระบางปากเซเสมราชปากเซ หลวงพระบางโดยมีเครื่องบิน atr 72 จำนวน
3 เที่ยวบิ่นต่อสัปดาห์ซึ่งบริษัทได้มี ความพยายามในการหาเส้นทางใหม่ไปยัง
จังหวัดสีหนุเวลชายฝั่งของกัมพูชาในอนาคต อันใกล้แต่ความคาดหวังที่ตั้งเอาไว้กลับ
ต้องปิดฉากลงเพราะว่าในปัจจุบันนี้สายการ บินที่มีการเดินทางตรงระหว่างกรุงพนมเป็น
ประเทศกัมพูชาและนครหลวงเวียงจันทร์แห่ง สปปลาวเป็นอันต้องสิ้นสุดลงโดยในปี
2566 สปปลาวเป็นแหล่งนักท่องเที่ยวต่าง ชาติรายใหญ่ที่เป็นอันดับ 4 ของประเทศ
กัมพูชาโดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดิน ทางมากกว่า
3722 185 คนโดยก่อนหน้านี้เพิ่มขึ้นจาก ปี
2565 ร้อยละ 302 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากจำนวน 9269 คนซึ่งอย่างไรก็ตามในปัจจุบันนี้
ถึงแม้เส้นทางการบินตรงระหว่างลาวและ กัมพูชาจะสิ้นสุดลงแต่สายการบินแคมโบเดีย
อังกอแอร์ได้เปิดเที่ยวบินตรงระหว่างกรุง พนมเปนและกรุงนิวเดลีประเทศอินเดียซึ่ง
นี่เป็นการเปิดสายการบินแคมโบเดียอังกอร แอร์ไลน์ที่เป็นสายการบินแห่งชาติเปิดตัว
เที่ยวบินตรงครั้งแรกระหว่างกรุงพนมเป ประเทศกัมพูชาและกรุงนิวเดลีประเทศ
อินเดียโดยคาดว่าจะช่วยยกระดับการเชื่อม ต่อและการขนส่งทางอากาศระหว่าง 2 ประเทศ
โดยมีการเปิดเผยเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ที่ผ่านมาณอาคาร VIP สนามบินนานาชาติ
พนมเปนภายใต้การนำของเนตรสวอนรองนายก รัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการแห่งชาติด้าน
ความมั่นคงการบินพลเรือนเหมาฮาวานา รัฐมนตรีประจำสำนักเลขาธิการแห่งรัฐการ
บินพลเรือนศกโสเคนรัฐมนตรีว่าการกระทรวง การท่องเที่ยวและเอกอัครราชทูตอินเดีย
ประจำกัมพูบูชารวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วน เสียที่เกี่ยวข้องในภาคการบินและการท่อง
เที่ยวโดยเที่ยวบินระหว่างกรุงพนมเปนและ กรุงนิวเดลีได้ออกเดินทางจากสนามบินนานา
ชาติพนมเปญเมื่อช่วงบ่ายวันอาทิตย์โดยใช้ เวลา 4 ชมึเพื่อเดินทางไปยังจุดหมายปลาย
ทางด้วยสายการบินที่ใช้เครื่องบิน Airbus a320 ที่จะมีการเปิดให้บริการ 4 เที่ยว
บินต่อสัปดาห์ในวันจันทร์วันพุธวันศุกร์ และวันอาทิตย์โดยทางประเทศกัมพูชาคาดหวัง
ว่าเส้นทางการบินใหม่ที่เตรียมพร้อม สำหรับความสำเร็จเนื่องจากมีมรดกทางศาสนา
ร่วมกันความต้องการในด้านการดูแลสุขภาพ และความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ระหว่าง
ประเทศกัมพูชาและประเทศอินเดียโดยสายการ บินแคมโบเดียอังกอแอร์ได้มีการเตรียม
พร้อมสำหรับความสำเร็จโดยอ้างว่าการ เชื่อมต่อนี้ไม่เพียงแต่จะส่งเสริมการท
ท่องเที่ยวระหว่างประเทศเท่านั้นแต่ยัง เป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรม
และทางด้านเศรษฐกิจที่ลึกซึมากกว่าเดิม ยิ่งขึ้นโดยรองนายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้
เน้นย้ำว่าการเปิดเที่ยวบินตรงระหว่าง กัมพูชาและอินเดียจะช่วยยกระดับกิจกรรม
ทางด้านการค้ารวมถึงการขนส่งทางอากาศ ระหว่างทั้ง 2 ประเทศนอกจากนี้ยังบอกว่า
เที่ยวบินตรงครั้งแรกจะเป็นการช่วยยก ระดับความสัมพันธ์ทางด้านสังคม
วัฒนธรรมและเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญโดย เฉพาะภาคการท่องเที่ยวระหว่างกัมพูชาและ
อินเดียส่วนเหมาฮาเนามองว่าการเปิดตัว เที่ยวบินตรงนี้เป็นความก้าวหน้าทางด้าน
ภาคการบินของกัมพูชาภายใต้นโยบายเปิดม่าน ฟ้าของรัฐบาลโดยเขาบอกว่าเส้นทางใหม่
ระหว่างกัมพูชาและอินเดียสะท้อนให้เห็น ถึงความก้าวหน้าของภาคการบินของกัมพูชา
ซึ่งสอดคล้องกับปีท่องเที่ยวกัมพูชา อินเดียปี
2567 โดยคาดว่าเส้นทางใหม่จะช่วยกระตุ้น จำนวนนักท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศได้
อย่างมีนัยสำคัญนอกจากนี้สายการบินอังก แอร์ยังได้มีการวางแผนที่จะเพิ่มเที่ยว
บินทุกวันภายในเดือนตุลาคมในปีนี้หากความ ต้องการของตลาดและจำนวนผู้ใช้บริการมีมาก
