แบนเงินบาท เซฟเงินกีบ เกมโยนความผิดหนีความจริง เป็นแคมเปญที่มีเนื้อหาสะท้อนถึงปัญหาทางสังคมและการเงินที่พบเห็นในสังคมไทยในช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยที่คำว่า “เงินบาท” และ “เงินกีบ” ถูกใช้เป็นตัวแทนของสองมิติของสังคมและการเงินที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน:
1. **เงินบาท**: แทนการใช้ชีวิตที่มีระดับความสะดวกสบายสูง มักเป็นบุคคลที่มีรายได้สูง สามารถใช้จ่ายได้หลากหลายโดยไม่ต้องคิดถึงความจำเป็นพื้นฐานอย่างมาก
2. **เงินกีบ**: แทนการอยู่รอดทางเศรษฐกิจที่ต้องเฉยเถียงกับการใช้จ่ายหรือการดำเนินชีวิตอย่างสม่ำเสมอ มักเป็นบุคคลที่ต้องคำนึงถึงการเงินอย่างรอบคอบและมีความจำเป็น
การแบ่งเงินเป็นสองบริบทนี้มีไว้เพื่อสะท้อนถึงความแตกต่างในฐานะสังคมและการเงินของบุคคลต่าง ๆ ในสังคมไทย โดยการเล่นเกมโยนความผิดหนีความจริงในแคมเปญนี้อาจถือเป็นการเล่นเส้นของคำว่า “เงินบาท” และ “เงินกีบ” ซึ่งเป็นการอ้างอิงถึงความเป็นจริงในสังคมที่มีความต่างกันอย่างมากแต่บางครั้งก็ถูกมองข้ามหรือเลือกที่จะไม่สนใจ
แคมเปญ “แบนเงินบาท เซฟเงินกีบ เกมโยนความผิดหนีความจริง” เป็นการสื่อสารที่มีเนื้อหาหลากหลายมิติเกี่ยวกับสังคมและการเงินในประเทศไทย โดยการใช้ “เงินบาท” และ “เงินกีบ” เป็นสัญลักษณ์ที่ชัดเจนเพื่อแสดงถึงความแตกต่างในฐานะและการเงินของบุคคลในสังคมไทย:
1. **เงินบาท**: ตัวแทนการใช้ชีวิตที่มีความสะดวกสบายและมั่งคั่งมากขึ้น บุคคลที่มีรายได้สูง สามารถใช้จ่ายได้หลากหลายโดยไม่ต้องคิดถึงความจำเป็นพื้นฐานอย่างมาก มักเป็นผู้ที่มีความสามารถในการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและการบริโภคที่หลากหลาย
2. **เงินกีบ**: ตัวแทนการอยู่รอดทางเศรษฐกิจที่ต้องคำนึงถึงการเงินอย่างรอบคอบและมีความจำเป็น บุคคลที่ต้องเฉยเถียงกับการใช้จ่ายหรือมีความจำเป็นในการจัดการเงินให้เป็นระเบียบ เนื่องจากมีทรัพยากรจำกัด
การแบ่งเงินเป็นสองบริบทนี้ช่วยให้เห็นภาพรวมของความแตกต่างในฐานะและการเงินของบุคคลในสังคมไทยอย่างชัดเจน และแนวคิดการเล่นเกมโยนความผิดหนีความจริงที่ประกอบด้วยการสลับสลายความจริงกับความสะดวกสบายของชีวิตอาจถือเป็นการสะท้อนถึงวัฒนธรรมและค่านิยมในสังคมบางส่วนที่อาจมองข้ามหรือไม่ต้องการจะติดตามความเป็นจริงที่ซับซ้อนขึ้น